ระทึก! หนุ่มห้อยกลางอากาศ หลังเชือกพันแขนและถูกเครนยกขึ้น

ระทึก! หนุ่มห้อยกลางอากาศ หลังเชือกพันแขนและถูกเครนยกขึ้น

กลายเป็นเหตุระทึกกลางเมืองหลัง หนุ่มห้อยกลางอากาศ เป็นความสูงกว่า 23 ชั้น หลังเชือกพันแขนและถูกเครนยกขึ้น เคราะห์ดีรอดตาย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม สำนักข่าว CBC ได้รายงานเหตุสุดระทึกที่เกิดขึ้นที่รัฐออทาริโอ ประเทศแคนาดา หลังจากที่พนักงานก่อสร้างคนหนึ่งห้อยต่องแต่งกลางอากาศ เป็นความสูงราวๆ 23 ชั้น หลังจากที่แขนของเขาพันเข้ากับสลิงยกของและทำให้เขาถูกเครนยกขึ้นไปด้วย

จากคลิปจะเห็นได้ว่า พนักงานคนดังกล่าวลอยอยู่กลางอากาศ 

ซึ่งเขาตะโกนสุดเสียงเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะที่พนักงานคนอื่นๆต่างได้แต่มองด้วยความหวาดกลัว และตะโกนให้กำลังใจเขา ทางบริษัทก่อสร้าง PCL ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลการก่อสร้างยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง พร้อมแจ้งว่าพนักงานชายคนดังกล่าวปลอดภัยดี ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระทึกครั้งนี้ และลงถึงพื้นอย่างปลอดภัย

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานพยาบาล และ รถดับเพลิงต่างยืนยันกับสำนักข่าวว่า พวกเขาไม่ได้รับแจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของรัฐออทาริโอ เปิดเผยว่าทางการได้ตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว และทางบริษัทก่อสร้าง PCL ยืนยันว่าพวกเขาจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสืบสวนครั้งนี้ต่อไป

ทั้งนี้จุดเกิดเหตุในครั้งนี้ถือเป็นจุดเดียวกันกับที่เคยเกิดเหตุเครนถล่มเมื่อช่วงปี 2563 โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ดีไม่มีการยืนยันว่าผู้ดูแลคือบริษัท PCL เหมือนกันหรือไม่

LDP พรรค ชินโซ อาเบะ คว้าที่นั่งในสภากว่าครึ่ง เลือกตั้งญี่ปุ่น  หลัง ชินโซ อาเบะ ถูกยิงเสียชีวิตขณะช่วยหาเสียง เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม สำนักข่าว NHK ได้รายงานว่า พรรค LDP หรือ พรรคเสรีประชาธิปไตย พรรคของนาย ชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรี คว้าเก้าอี้เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา โดยพรรค LDP กวาดที่นั่งมากกว่าครึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพรรคร่วม

นาย คิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบันระบุว่า เขารู้สึกขอบคุณกับผลการเลือกตั้งญี่ปุ่นในครั้งนี้ โดยเขาให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะหาทางรับมือกับปัญหาใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การรุกรานประเทศยูเครน และ ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น

ขณะที่พรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย คู่แข่งหลักได้ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมให้เหตุผลถึงความพ่ายแพ้ว่า ความนิยมพรรคยังคงตกต่ำอยู่ และพวกเขาแก้ปัญหาที่ตนเองก่อนจะเดินหน้ากู้ความเชื่อมั่นจากประชาชนต่อไป

ทั้งนี้การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังสองวันจากเหตุ ลอบสังหาร ชินโซ อาเบะ ในระหว่างกล่าวช่วยหาเสียงในจังหวัดนารา

ประท้วงศรีลังกา ยังเดือด ผู้ชุมนุมยันปักหลักบ้าน ปธน. จนกว่านายกฯจะลาออกด้วย

สถานการณ์ชุมนุม ประท้วงศรีลังกา ยังร้อนระอุ หลังจากที่ ผู้ชุมนุมยันปักหลักบ้านประธานาธิบดี จนกว่านายกรัฐมนตรีจะลาออกด้วย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ผู้ชุมนมชาวศรีลังกา ได้ประกาศจุดยืนว่าจะยังคงปักหลักในบ้านประธานาธิบดีและบ้านนายกรัฐมนตรีต่อไป แม้ว่านายโคฐาภยะ ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกา จะประกาศลาออกจากตำแหน่งและจะมีผลในวันที่ 13 ก.ค.

ผู้ชุมนุมศรีลังกาได้ยื่นข้อเรียกร้องว่า พวกเขาจะออกจากบ้านพักของผู้นำศรีลังกาก็ต่อเมื่อทั้ง ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีต่างลงจากตำแหน่งทั้งคู่ เนื่องจากผู้ชุมนุมมองว่านาย ราชปักษา ไม่ได้ลาออกจริงๆและวางแผนกลับขึ้นอำนาจอีกครั้ง

ในช่วงที่ผ่านมาประเทศศรีลังกาต้องเผชิญวิกฤตอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพิษเศรษฐกิจ ปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำมัน และ ยารักษาโรคที่ขาดแคลนนานหลายเดือน ส่งผลให้ประเทศล้มละลาย จนนำไปสู่การประท้วงและบุกบ้านของผู้นำศรีลังกาในที่สุด

จากการบุกรุกครั้งนี้ทำให้ได้เห็นภาพของผู้ชุมนุมที่ลงไปว่ายน้ำเล่นในสระว่ายน้ำ รวมไปถึงใช้ห้องน้ำ นอนเล่นบนเตียง และรับทานอาหารจากในครัวของบ้านผู้นำ

ฮ่องกง แถลงพบ ยาไอซ์ซุกแชมพู หนัก 7.8 จากไทย มูลค่า 20 ล้านบาท ย้ำเตือนอย่าเข้าร่วมขบวนการยาเสพติด จับได้มีโทษหนัก เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม เว็บไซต์ของทางการฮ่องกงรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำสนามบินได้ยึดยาไอซ์ขนาด 7.8 กิโลกรัม ซุกมากับขวดแชมพูจำนวน 26 ขวด มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาทไทย โดยยาไอซ์ล็อตนี้เดินทางมาจากประเทศไทย

ทางเจ้าหน้าที่ศุลการกรได้ตรวจสอบพัสดุที่อ้างว่าเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และเมื่อตรวจสอบก็พบ ยาไอซ์ขนาด 7.8 กิโลกรัม โดยจากการตรวบสอบเพิ่มทำให้เจ้าหน้าที่จับกุมชายวัย 35 ปีที่ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติดในครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาขนส่งยาเสพติดอันตราย

ทางเจ้าหน้าที่ศุลการยังได้ย้ำเตือนประชาชนขอให้เฝ้าระวังและไม่เข้าร่วมการขบวนขนยาเสพติดเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงิน พร้อมกับชับว่า อย่าขนของที่ไม่ทราบว่าคืออะไร เพื่อบุคคลอื่นเช่นเดียวกัน

สำหรับข้อหาขนยาเสพติดอันตรายนั้นถือเป็นความผิดร้ายแรง ผู้กระทำผิดสามารถถูกตัดสินมีความผิด โทษสูงสุดคือปรับเงินราวๆ 22 ล้านบาท และ จำคุกตลอดชีวิต

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป