โกดังชาบู ประกาศกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังประกาศปิดตัวไปรอบ เจ้าของขอบคุณ เจ้าของค่ายเพลงไหทองคำที่ให้ความช่วยเหลือ โกดังชาบู ร้านชาบูชื่อดังที่ประกาศปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่าทางร้านจะกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังเจ้าของร้านตัดสินใจสู้ต่อ โดยได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามจากลูกค้า โดยได้เริ่มเปิดให้บริการวันแรกเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ทางร้านได้โพสต์แจ้งข่าวจะเปิดร้าน พร้อมขอบคุณ ประจักษ์ชัย ไหทองคำ เจ้าของค่ายเพลงไหทองคำ ที่เดินทางมาพูดคุย ให้คำปรึกษา และให้ความช่วยเหลือ
ซึ่งทางเพจระบุว่า “ประกาศพรุ่งนี้เปิดร้านแล้วครับ ศุกร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ เปิดปกติ 4 โมงเย็น ถึงตี 5 ครับผม ขอบคุณ อาจารย์ประจักษ์ชัย ครับสำหรับโอกาส และขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน ที่สนับสนุน ทั้งส่งกำลังใจทั้ง ประสานโรงพยาบาล ทั้งช่วยเรื่องปัญหา และสุดท้ายขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน”
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เจ้าของร้านโกดังชาบู ได้ออกมาปล่อยโฮกลางไลฟ์ว่า “วันนี้คงต้องจบลงจริง ๆ ไปต่อไม่ไหว ทำเต็มที่จนวินาทีสุดท้ายแล้ว แม้แต่จะลงของขายยังไม่มีปัญญา คงต้องปล่อย ใครสนใจเช่าพื้นที่ เซ้งร้าน ติดต่อได้ เงินที่ได้จากค่าเช่า ค่าเซ้ง จะนำไปเคลียร์หนี้สิน หากพอนำไปตั้งร้านเล็ก ๆ ได้ ก็น่าจะเป็นแบบนั้น
แฟนก็ป่วย แม่ค้าไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริง ๆ มีแต่คุยได้กับลูก แฟนแม่ค้าเป็นซึมเศร้า เขาดีขึ้นแล้ว แต่ตอนนี้มีอาการอีก ไม่รู้ว่าจะดูแลเขาได้ไหม ห่วง กลัวเขาจะทำร้ายตัวเองอีก
ตอนนี้แม่ค้าสุดแล้วจริง ๆ ต้องขอบคุณลูกค้า ลูกเพจทุกท่านที่ให้กำลังใจ แม่ค้าพยายามแล้ว สู้แล้ว แต่ไม่ไหวจริง ๆ ที่เป็นแบบนี้ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ร้านปิดแล้ว แม่ค้าสู้ไม่ได้จริง ๆ แค่ลงของขายต่อวันก็ไม่ไหวแล้ว ชักหน้าโปะหลัง แม่ค้าทำเต็มที่แล้ว จะเอายังไงต่อจากนี้ก็ไม่รู้เลย”
สำหรับสมรรถนะ รถโบกี้ปั้นจั่นกลทั้ง 3 คัน เป็นรุ่น KIROW Multitasker Railway Crane Type KRC 1210 N ซึงเป็นรถโบกี้คุณภาพสูง ผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัยจากประเทศเยอรมนี มีขนาดกำลังยกไม่ต่ำกว่า 80 ตัน มีคันปั้นจั่นที่ยาว ทำให้ยกรถตกรางในพื้นที่กว้างโดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนรถหลายครั้งได้
อีกทั้งสามารถใช้งานบน Electrified Track และในพื้นที่แคบ เช่น อุโมงค์ บนสะพาน ทางคู่ รวมถึงบนพื้นที่ลาดเอียง และยกรถตกรางในอุโมงค์ได้ โดยมีความเร็วเคลื่อนที่ด้วยตัวเองไม่กว่า 20 กม./ชม. และถูกรางจูงไม่น้อยกว่า 90 กม./ชม.
แพทย์ ตอบใช้ สายรัดศีรษะลดอาการป่วยหัวได้ไหม ?
แพทย์ ออกมาตอบคำถามยอดนิยมว่า สายรัดศีรษะลดอาการป่วยหัวได้ไหม แพทย์เผยอาจจะช่วยลดอาการปวดได้เล็กน้อย
นายแพทย์ ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าอาการปวดหัวนั้นเกิดขึ้นจากเหตุและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ อาทิ ภาวะเครียดจากงานหรือสภาพจิตใจ อุณภูมิร้อนหรือเย็นเกินไป สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังหรือวุ่นวาย การทำกิจกรรมที่มากหรือหนักเกินไป หรือปวดหัวจากโรคกลุ่มไมเกรน
ซึ่งอาการปวดหัวจากโรคในกลุ่มนี้มักจะไม่ค่อยรุนแรง แต่อาจรบกวนการทำกิจวัตประจำวัน เป็นแต่ละครั้งอาจจะหายเร็วหรือช้าแตกต่างกันไป ตำแหน่งมักจะกินพื้นที่ของบริเวณศีรษะค่อนข้างมาก หรือมีการเปลี่ยนย้ายตำแหน่งของอาการปวดไปตามส่วนต่าง ๆ ของศีรษะ บางครั้งซ้าย บางครั้งขวา เป็นต้น หากท่านหรือคนในครอบครัวมีอาการปวดหัวร่วมกับสัญญาณเตือน ควรรีบไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทันที
หากมีอาการปวดโดยปราศจากสัญญาณอันตรายข้างต้น แต่เข้าได้กับอาการปวดที่มีเหตุและปัจจัยกระตุ้นชัดเจน อาจจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงเหตุดังกล่าว และสามารถรับประทานยาแก้ปวด รอสังเกตอาการ หรือบางท่านอาจจะเลือกใช้วิธีการบีบนวดศีรษะ ฝังเข็ม ฟังดนตรีผ่อนคลาย ก็อาจจะช่วยลดหรือบรรเทาอาการได้ในบางสาเหตุของอาการปวด
ส่วนกรณีการใช้ ‘สายรัดศีรษะ’ อาจจะบรรเทาอาการปวดเล็กน้อย จากการปวดหัวในกลุ่มที่ปวดจากความเครียดได้ คล้ายการบีบนวดศีรษะบรรเทาอาการ โดยไม่ได้อาศัยกลไกในการออกฤทธิ์ใด ๆ
แต่ปัจจุบัน มีวิธีการรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนที่มีสาเหตุจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 โดยใช้แผ่นคาดศีรษะที่มีการใช้ไฟฟ้าขนาดน้อย ๆ กระตุ้นเส้นประสาทดังกล่าว เพื่อลดการทำงานที่มากเกินไปหรือผิดปกติ เพื่อบรรเทาอาการปวดหัวจากไมเกรนได้ แต่ยังไม่ได้มีประสิทธิภาพที่ชัดเจนเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐานอื่น ๆ และราคายังค่อนข้างสูง
หากจะเลือกใช้วิธีการรักษาใด ควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันอันตรายหรือภาวะแทรกซ้อนรวมถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา แต่ดีที่สุดคือการเข้ารับการตรวจรักษาและข้อรับคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป